คืนวันอังคารที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา มีเกมกลางสัปดาห์ของศึกการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซึ่งมีแข่งด้วยกัน 2 คู่ โดยเป็นการพบกันของ คริสตัลพาเลช ต้องเปิดบ้านพบกับ บอร์นมัธ อีกคู่ เป็น เบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ โดยมีผลการแข่งขัน และ ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
คริสตัล พาเลช มีคิวเปิดสนาม เซลเฮิร์ท พาร์ก สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ เอฟซี เริ่มเตะเวลา 02.30 น. คริสตัลพาเลท เริ่มเกมได้เพียง 19 นาที “ซาโก้” ก็ถูกใบแดง จากการปะทะหนัก เปิดปุ่มสตั๊ด เข้าทางด้านริมเส้น ส่งผลให้ถูกใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามไป เจ้าบ้านเหลือ 10 คน ตลอดทั้งเกมพลัดกันบุก แต่ไม่มีสกอเกิดขึ้น
ประตู 1-0 เกิดขึ้นในนาทีที่ 75 โดนเป็นการลากไปยิงเองของ “ชลุป” ที่ลากมายิงเองเกือบครึ่งสนาม เป็นลูกยิงที่น้ำหนัก ทิศทางดีมาก ในครึ่งหลังไม่มีสกอเพิ่มเติม ทำให้ คริสตัล พาเลช เปิดบ้านชนะ บอร์นมัธ 1-0 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
อีกคู่เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ต้องบุกไปเยือน เบิร์นลีย์ ถึงถิ่น เทิร์ฟมัวร์ เริ่มเกม แมนฯซิตี้เป็นฝ่ายได้ขึ้นนำก่อนจาก กาเบรียล เจซุส ที่ปั่นเข้าเสาไกลไปอย่างสุดสวย แมนฯซิตี้บุกหวังทำประตูเพิ่มแต่ไม่สกอเกิดขึ้นในครึ่งแรก จบครึ่งแรกทีมเยือนนำอยู่ 0-1
ในครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ซิตี้ถล่มประตูเพิ่ม อีก 3 ลูก จาก กาเบรีบล เจซุส คนเดิม ในนาทีที่ 50 เป็นการโฉบเข้าไปยิงอย่างสวยงาม ทำให้แมนฯซิตี้ออกนำ 0-2 เบิร์นลี่ย์ มีโอกาศได้ประตูคืนจากฟรีคิกส์ นาทีที่ 60 แต่ “เอเมอสัน” ก็รับไว้หนึบติดมือ นาทีที่ 68 ทีมเยือนทิ้งห่างเป็น 0-3 จากการยิงซ้ำแถวสองของ “โรดิโก้ เอร์นานเดซ” ต่อมาในนาทีที่ 87 แมนฯซิตี้ได้ประตูเพิ่มจาก ริยาด มาห์เรช ตั้งป้อมยิงหน้ากรอบเขตโทษ เข้าเสาแรกไปอย่างสวยงาม นำห่างไป 0-4 แต่เจ้าบ้านมาได้ประตูปลอบใจนาทีที่ 87 จาก “แบรดี้” บอลหลุดมาเสาสอง ที่เจ้าตัวยืนอยู่ ยิงเข้าไปตุงตาข่าย จบเกม เบิร์นลีย์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4
คริสตัล พาเลช ได้ขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 5 หลังจากชนะมา 2 นัดรวด มี 21 คะแนน ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็สามารถบุกมาเก็บ 3 แต้มต่อไปได้ โดยนัดที่แล้วสะดุดเสมอกับ นิวคาสเซิล 2-2 ซึ่งชัยชนะในนัดนี้ทำให้ เรือใบสีฟ้า ขึ้นอันดับ 2 ชั่วคราว ซึ่งมีแต้มห่างจากจ่าฝูงอยู่ 8 แต้ม สำหรับเกมกลางสัปดาห์ของพรีเมียร์ลีกในวันพรุ่งนี้ มีคู่สนุกอีกหลายคู่เลยทัเดียว เรียกได้ว่าก่อนจบเลกแรกนั้น สู้กันเข้มข้นเลยทีเดียว
ขอขอบคุณรูปภาพจาก:facebook Manchester City & AFC bournemouth #ข่าวกีฬา
