ทางฝั่งกุนซือเจ้าบ้าน แซงเอเตียง ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 4 นัดหลังสุดเก็บได้ถึง 7 แต้ม โดยในเกมส์นี้ปรับเปลี่ยนหมุนนักเตะ จัดทัพระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูยังคงใช้ สเตฟาน รัฟเฟอร์ ในแผงมิดฟิลด์มี ยาน เอ็มวีล่า และ เรมี่ คาเบลล่า เป็นหัวใจของทีม
โดยในเกมส์นี้ฝั่งเจ้าถิ่นต้องการ 3 แต้มเพื่อพื้นที่อันดับ 4 เพื่อลุ้นไปเตะยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า หันมามองทางฝั่งทีมเยือน อย่าง บอร์กโดซ์ ที่เพิ่งพลิกชนะ มาร์เซย มาได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ในเกมส์นี้เสียตัวหลักอย่าง นิโคลัส เดอ วิลเล่ ไปในเกมส์ก่อน โดยนัดนี้เปลี่ยนหมากมาใช้ 4-2-3-1 เช่นกันทีมเยือนยังคงต้องพึ่ง คามาโน่ ปีกตัวจี๊ดที่ซัดในลีกไปแล้ว 10 ประตู
โดยเกมส์ในครึ่งแรกทั้งสองทีมผลัดกันครองบอล ค่อนข้างรัดกุม แต่แล้ว วาห์บี คาห์ซี่ ผู้เล่นของเจ้าบ้านตัดบอลได้กลางสนาม ลากจี้ โยกออกยิงด้วยขวา บอลพุ่งไม่แรงมากนัก บีนอย คอสติล นายประตูฝั่งทีมเยือนรับสบาย
จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
เกมส์ในครึ่งหลังเดินทางมาถึงนาทีที่ 56 จังหวะปัญหาที่ผู้ตัดสินต้องเปิด VAR ก่อนให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นเนื่องจากไปสกัดโดนแขนของ พาเลนเซีย แบ๊คขวาทีมเยือน และเป็น วาห์บี คาห์ซี่ รับหน้าที่ยิงไปทางซ้ายมือตนเอง ง่ายๆ แซงเอเตียง ขึ้นนำ 1-0
GOAL !! ในนาทีที่ 74 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม เปิดเข้ามาเป็น แมทธิว เดบูชี่ อดีตแข้งอาเซน่อล ขึ้นโหม่งให้ เจ้าถิ่นทิ้งห่าง 2-0
เกมส์ทำท่าเหมือนจะจบลง เจ้าถิ่นได้เตะมุมในนาทีที่ 90+1 เล่นลูกสูตรเขี่ยเปลี่ยนจุดก่อนครอสบอลยัดมาที่เสาแรง และ เดบูชี่ แบ๊คขวาจ้าวเดิม เข้าฮอส โฉบที่เสาแรก ไม่เหลือ !! เจ้าถิ่นทิ้งห่าง 3-0 จบเกมส์ด้วยสกอร์นี้ โดยแซงเอเตียงเก็บ 3 แต้มสำคัญพร้อมทะยานขึ้นอันดับ (4) ทางด้านบอร์กโดซ์พ่ายแพ้เป็นนัดที่ 12 ของฤดูกาลนี้ มีคิวต้องออกไปเยือน นีมส์ ทีมอันดับที่ (10)
ในวันที่ 21 เมษายน 2562
#MOSCALCIO
