เกมส์เริ่มไม่ได้ไม่นานเมื่อ โจนาธาน อิโคเน่ ตัวรุกของลีลล์ เปิดบอลกึ่งยิงกึ่งผ่าน บอลหลุดมาเข้าเท้าของ มุลเนอร์ สกัดผิดเหลี่ยมของประตูตัวเอง ลีลล์ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 7
GOAL !! ในนาทีที่ 11 เมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเบ้ โชว์ทักษะแหวกแนวรับของลีลล์ ก่อนเปิดไปเสาสองให้ จวน เบอร์นาต แปรบอลสวนตัวไม่เหลือ ปารีส ไล่มา 1-1แต่แล้วเมื่อ เฆก้า เปิดคิลเลอร์พาสวัดใจ ให้ นิโคลัส เปเป้ เบียดแย่งกับ จวน เบอร์นาต ไปรั้งเสื้อไว้ เปเป้ ล้มลง กรรมการไม่ลังเล แจกแดง!! จวน เบอร์นาต ทันที ทำให้ปารีสต้องเล่น 10 ตัวตั้งแต่นาทีที่ 36 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
GOAL !! ในนาทีที่ 51 จากจังหวะตัดบอลกลางสนามของ ลีลล์ เป็นผล เมื่อ โลอิค เรมี่ เล่นชิ่งกับ โจนาธาน อิโคเน่ ก่อนแทงทะลุช่องให้ นิโคลาส เปเป้ เข้าไปดวลเป้า ไม่เหลือ ลีลล์ ออกนำอีกครั้ง 2-1
ถัดมาในนาทีที่ 65 ผู้เล่น ปารีส ยืนสูงหวังทวงประตูคืน แต่ ด้วยความไวของ โจนาธาน อิโคเน่ จ้าวเดิมเลี้ยงกินตัวก่อนจ่ายตัดหลัง ให้ โจนาธาน แบมบา เข้าซัดด้วยซ้ายบอลแหวกอากาศ ส่งให้ ลีลล์ ทิ้งห่างออกไป 3-1
GOAL !! ในนาทีที่ 71 ไปกันใหญ่เมื่อลีลล์ได้ลูกตั้งเตะ นิโคลัส เปเป้ รับหน้าที่ครอสบอลไปบริเวณเส้นขอบ 6 หนาเป็น กาเบียล มากัลป์แฮส ซุปเปอร์ซัปของทีม เทคตัวลอยโขกเหน่งๆ 4-1
GOAL !! เกมส์เข้าสู่นาทีที่ 84 หนังม้วนเดิมเมื่อ ลีลล์ ได้ลูกเตะมุมไปที่เสาสอง โจเฆ่ ฟอนเต้ เซนเตอร์ฮาฟชาวโปรตุกีส ดีกรีแชมป์ ยูโร ขึ้นโหม่ง ไม่เหลือ 5-1
จบเกมส์เป็นลีลล์เอาชนะปารีสไปได้ พร้อมเก็บ 3 แต้มรั้งรองฝูงเหนียวแน่น ส่วนคิวถัดไปต้องออกไปเยือน ตูลูส ในวันที่ 21 เมษายน ส่วน ปารีส อย่างไรก็ดี พวกเขาทิ้งห่างทีมอันดับที่สองอย่าง ลีลล์ อยู่ 17 แต้มและแข่งน้อยกว่า 1 นัด โอกาสในการคว้าแชมป์สมัยที่ 8 ของพวกเขาเปิดกว้างอย่างมาก
#MOSCALCIO
